วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เซิ้งบั้งไฟ


          การเซิ้งบั้งไฟเป้นการฟ้อนประกอบการขับกาพย์ กาพย์เซิ้งบั้งไฟมีทั้งกาพย์เซิ้งเล่านิทานหรือตำนาน เช่น ตำนานผาแดงนางไอ่ ตำนานพญาคันคาก หรือเล่านิทานท้องถิ่น เช่น นิทานเรื่องก่องข้าวน้อยฆ่าแม่ และกาพย์เซิ้งประเภทคำสอน เช่น กาพย์เซิ้งพระมุณี นอกจากนี้ยังมีกาพย์เซิ้งขอบริจาคจตุปัจจัย กาพย์เซิ้งอวยพร กาพย์เซิ้งประเภทตลกหยาบโลน เป็นต้น
           การฟ้อนเซิ้งบั้งไฟนั้นอาจจะเป็นผู้หญิงล้วน หรือหญิงและชายก็ได้ ท่าฟ้อนเซิ้งบั้งไฟนั้นมีมากมายหลายท่า เช่น ท่าฟ้อนของคุ้มบ้านใต้สามัคคี อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร มี 6 ท่าคือ ท่าไหว้ครู ท่านาคพ่นน้ำ ท่าม้วนเชือก ท่าแงงคีง (ท่าชมโฉมตัวเอง) ท่าส่อนฮวก (การช้อนลูกอ๊อด) ท่ายูงรำแพน
ส่วนท่าฟ้อนเซิ้งบั้งไฟของบ้านท่าศรีธรรม อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร มี 13 ท่า คือ ท่าไหว้ครู ท่าเกี่ยวข้าว ท่าทวยเทพ ท่าแหวกม่านเข้าหอ ท่าเอิ้นบ่าว-แหลวเสิ่น (ลักษณะของหญิงสาวเรียกชายหนุ่ม) ท่าปะแป้ง ท่าเสือขึ้นภู ท่าปอบผีฟ้า-กาตบปีก ท่าบัวหุบ-บัวบาน ท่าสามก้าว ท่างามเดือน ท่าแผลงศร

เครื่องแต่งกาย


1. ใช้ชุดศรัทธา คือ ใส่เสื้อย้อมคราม นุ่งโสร่งหรือผ้าถุงไหม ซึ่งมีลักษณะคล้ายกระโจม แขวนกระดิ่งหรือกระพรวน ใส่หมวกกาบหรือหมวกเวิ้ง ใช้ผ้ามัดเอว สวมเล็บ บางครั้งถือร่มกระดาษ
2. ใช้ชุดพื้นเมือง คือ นุ่งผ้าซิ่นสั้น ใส่เสื้อแขนกระบอก โดยเอาชายเสื้อออกข้างนอก ห่มผ้าสไบ เกล้าผมมวยทัดดอกไม้

เครื่องดนตรี

ใช้ดนตรีพื้นเมืองอีสานประกอบไปด้วย กลองตุ้ม พังฮาด กลองยาว รำมะนา ฆ้องเหม่ง ฉิ่ง ฉาบ กั๊บแก๊บ ซึ่งจะเล่นลายเซิ้งบั้งไฟ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น